ยางธรรมชาติ – ส.สมาน เทรดดิ้ง https://www.smarntrading.com ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด Tue, 05 Mar 2024 07:23:15 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.7.1 https://www.smarntrading.com//wp-content/uploads/2020/06/@smarntrading96-60x60.png ยางธรรมชาติ – ส.สมาน เทรดดิ้ง https://www.smarntrading.com 32 32 ข้อดี และ ข้อจำกัด ของยางชนิดต่างๆ https://www.smarntrading.com/%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%b5-%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%88%e0%b8%b3%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87/ Sat, 14 Mar 2020 22:21:39 +0000 https://www.smarntrading.com/?p=8513 ส.สมาน เทรดดิ้ง - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด - ข้อดี และ ข้อจำกัด ของยางชนิดต่างๆ

ยางนีโอพรีน ข้อดี ข้อ จำกัด ความต้านทานเปลวไฟโดยธรรมชาต

ส.สมาน เทรดดิ้ง

]]>
ส.สมาน เทรดดิ้ง - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด - ข้อดี และ ข้อจำกัด ของยางชนิดต่างๆ

seal oring hydraulic scaled 1 - ข้อดี และ ข้อจำกัด ของยางชนิดต่างๆ - ไฮปาลอน, ไอน้ำ, แสงแดด, สี, สารหน่วงไฟ, ยางไนไตรล์, ยางนีโอพริน, ยางธรรมชาติ, ยางซิลิโคน, ยาง, ทนแรงกระแทก, ทนต่อสภาพอากาศ, ทนต่อน้ำมัน, ทนต่อการฉีกขาด, ทนความร้อน, ซึม, ฉนวนไฟฟ้า, จุดแข็ง, จุดเด่น, ความยืดหยุ่น, ข้อเสีย, ข้อดี, ข้อจำกัด, การใช้งาน, EPDM

ยางนีโอพรีน

ข้อดี ข้อ จำกัด
ความต้านทานเปลวไฟโดยธรรมชาติดี ความต้านทานต่ำหรือเป็นธรรมต่อตัวทำละลายอะโรมาติกและออกซิเจน
ทนต่อน้ำมันและน้ำมันเบนซิน ความยืดหยุ่น จำกัด ที่อุณหภูมิต่ำ
ทนต่อสภาพอากาศโอโซนและริ้วรอยตามธรรมชาติได้ดีมาก
ทนต่อการเสียดสีและการแตกร้าวแบบโค้งได้ดี
ทนต่อกรดและด่างได้ดีมาก

 

ยางไนไตรล์

ไนไตรล์และนีโอพรีเป็นยางทนทนน้ำมันสูง แต่ไนไตรล์เหนือกว่ายางนีโอพรีนในความต้านทานน้ำมันน้ำมัน และตัวทำละลายอะโรมาติก อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถทำเช่นเดียวกับนีโอพรีน คือการใช้งานที่ต้องการสัมผัสกับสภาพอากาศโอโซนและแสงแดด และไม่ได้มีความต้านทานเปลวไฟ โดยธรรมชาติของเนื้อยาง

ข้อดี ข้อ จำกัด
ทนต่อน้ำมันและน้ำมันได้ดีมาก ความต้านทานต่ำกว่าโอโซนแสงแดดและริ้วรอยตามธรรมชาติ
ทนต่อกรดและด่างได้ดีมาก ความต้านทานต่ำต่อตัวทำละลายออกซิเจน

 

ยางไฮปาลอน

ไฮปาลอนเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติใกล้เคียง กับนีโอพรีน แต่มีความทนทานต่อกรด การเกิดออกซิเดชัน และมีความคงตัวของสีที่ดีกว่า ยางนี้สามารถใช้แทนโพลีคลอโรพรีน หรือ โพลิไวนิลคลอไรด์ ที่ทำจากพลาสติกในการใช้งานหลาย ๆ อย่าง

ข้อดี ข้อ จำกัด
คุณสมบัติทนไฟที่ดี ความต้านทานต่ำหรือเป็นธรรมต่อตัวทำละลายอะโรมาติก
ความต้านทานปานกลางกับน้ำมันและน้ำมันเบนซิน ความยืดหยุ่น จำกัด ที่อุณหภูมิต่ำ
ความต้านทานต่อสภาพอากาศ, โอโซน, แสงแดดและการเกิดออกซิเดชันที่เหนือกว่า
ความต้านทานการกัดกร่อนที่ดี
ทนทานต่อกรดและด่างได้ดีเยี่ยม

 

ยางโพลียูรีเทน

ข้อดี ข้อ จำกัด
ทนต่อการเสียดสีและการฉีกขาดได้ดีเยี่ยม ความต้านทานต่ำต่ออัลคาลิกรดและตัวทำละลายออกซิเจน
ความต้านทานแรงดึงสูงมากพร้อมการยืดตัวที่ดี ความต้านทานต่ำกว่ากับน้ำร้อน
ทนทานต่อสภาพอากาศโอโซนและแสงแดดได้ดีเยี่ยม
ทนต่อน้ำมันและน้ำมันได้ดี
สามารถยึดเกาะกับเนื้อผ้าและโลหะได้ดี

 

ยางซิลิโคน

ข้อดี ข้อ จำกัด
ทนต่อความร้อนได้ดีเยี่ยม ความต้านทานต่ำต่อการเสียดสีการฉีกขาดและการเติบโตของบาดแผล
ความยืดหยุ่นที่ดีเยี่ยมที่อุณหภูมิต่ำ ความต้านทานแรงดึงต่ำ
ชุดบีบอัดต่ำ ความยืดหยุ่นไม่ดี
ฉนวนไฟฟ้าที่ดีมาก ความต้านทานต่ำกว่าน้ำมันน้ำมันและตัวทำละลาย
ทนทานต่อสภาพอากาศโอโซนแสงแดดและการเกิดออกซิเดชันได้เป็นอย่างดี ความต้านทานต่ำต่ออัลคาลิและกรด
ความเสถียรของสีที่เหนือกว่า

 

ฟลูออโรคาร์บอนอีลาสโตเมอร์

ข้อดี ข้อ จำกัด
ทนต่อความร้อนได้ดีเยี่ยม ทนต่อการฉีกขาดและการเจริญเติบโตแย่
ทนทานต่อน้ำมันน้ำมันไฮดรอลิกและ ตัวทำละลายไฮโดรคาร์บอนได้อย่างดีเยี่ยม ความต้านทานต่อตัวทำละลายออกซิเจนน้อยมาก
ทนต่อสภาพอากาศโอโซนและแสงแดดได้ดีมาก การยึดเกาะที่เป็นธรรมกับโลหะผ้า
สารหน่วงไฟที่ดี
การซึมผ่านของก๊าซและไอน้ำดีมาก

 

EPDM โพลีเมอร์

ข้อดี ข้อ จำกัด
ทนทานต่อความร้อนโอโซนและแสงแดดได้ดีเยี่ยม ความต้านทานต่ำต่อน้ำมันเบนซินและสารละลายไฮโดรคาร์บอน
ความยืดหยุ่นที่ดีมากที่อุณหภูมิต่ำ การยึดติดกับเนื้อผ้าและโลหะไม่ดี
ความต้านทานที่ดีต่อด่างกรดและ ตัวทำละลายออกซิเจน
เสถียรภาพของสีที่ดีเยี่ยม
ความต้านทานที่เหนือกว่ากับน้ำและไอน้ำ

 

ยางธรรมชาติ

ข้อดี ข้อ จำกัด
ความยืดหยุ่นที่โดดเด่น ความต้านทานต่ำต่อความร้อนโอโซนและแสงแดด
ความต้านทานแรงดึงสูง ความต้านทานเล็กน้อยต่อน้ำมันเบนซินและตัวทำละลายไฮโดรคาร์บอน
ความต้านทานต่อการฉีกขาดและรอยขีดข่วนที่เหนือกว่า
ความยืดหยุ่นในการตอบสนองที่ดีเยี่ยม
ความยืดหยุ่นที่ดีที่อุณหภูมิต่ำ
แทคที่ยอดเยี่ยมยึดเกาะด้วยตนเอง
สามารถยึดเกาะกับเนื้อผ้าและโลหะได้ดี

ความแตกต่างระหว่าง ยางสังเคราะห์ กับยางธรรมชาติ

ความแตกต่างระหว่าง ยางซิลิโคน กับยางธรรมชาติ

 

ยางบิวทิล

ข้อดี ข้อ จำกัด
ความสามารถในการซึมผ่านของก๊าซและไอน้ำที่โดดเด่น ความต้านทานต่ำต่อตัวทำละลายน้ำมันและไฮโดรคาร์บอน
ทนต่อความร้อนออกซิเจนโอโซนและแสงแดดได้ดีมาก กระบวนการผลิตที่เป็นธรรม
การดูดซับพลังงานสูง (ทำให้หมาด ๆ ) ความยืดหยุ่นไม่ดี
ทนต่อด่างและตัวทำละลายออกซิเจนได้อย่างดีเยี่ยม ความยืดหยุ่นการตอบสนองต่ำ
แรงฉีกขาดที่ดีร้อน
ความต้านทานที่เหนือกว่ากับน้ำและไอน้ำ

 

ยางสไตรีนบิวทาไดอีน

ข้อดี ข้อ จำกัด
ทนแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ความต้านทานต่ำต่อโอโซนและแสงแดด
ความยืดหยุ่นที่ดีมากความต้านทานแรงดึงการขัดถูและความยืดหยุ่นที่อุณหภูมิต่ำ ความต้านทานน้อยมากต่อน้ำมันเบนซินและ ตัวทำละลายไฮโดรคาร์บอน

 

ยางโพลีบูทาเดียน

ข้อดี ข้อ จำกัด
ความยืดหยุ่นที่โดดเด่น กระบวนการผลิตที่ต่ำกว่า
ความยืดหยุ่นที่ดีเยี่ยมที่อุณหภูมิต่ำ ความต้านทานต่ำต่อน้ำมันเบนซินและสารละลายไฮโดรคาร์บอน
ความต้านทานที่เหนือกว่าต่อการขูดขีดการเจริญเติบโตของการตัด และการแตกร้าวแบบโค้งงอ ทนต่อความร้อนและโอโซนน้อยมาก

 

ยางโพลิไอโซพรีน

ข้อดี ข้อ จำกัด
ความยืดหยุ่นที่โดดเด่น ความต้านทานต่ำต่อความร้อนโอโซนและแสงแดด
ความต้านทานต่อการฉีกขาดและรอยขีดข่วนที่เหนือกว่า ความต้านทานน้อยมากต่อน้ำมันเบนซินและตัวทำละลายไฮโดรคาร์บอน
ความต้านทานแรงดึงที่ดีมาก
ความยืดหยุ่นในการตอบสนองที่ดีเยี่ยม
ความยืดหยุ่นที่ดีที่อุณหภูมิต่ำ
ขาดกลิ่น

Post: https://www.smarntrading.com/รวมข้อดี-ข้อจำกัดยาง

ส.สมาน เทรดดิ้ง

]]>
Rubber intelligence Unit (RIU) https://www.smarntrading.com/riu-go-th/ Sat, 07 Mar 2020 11:35:05 +0000 https://www.smarntrading.com/?p=8282 ส.สมาน เทรดดิ้ง - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด - Rubber intelligence Unit (RIU)

เว็บไซต์รวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับยาง ข้อมูลยางธรรมชาติ หรื

ส.สมาน เทรดดิ้ง

]]>
ส.สมาน เทรดดิ้ง - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด - Rubber intelligence Unit (RIU)

ดาวน์โหลด 8 - Rubber intelligence Unit (RIU) - เช็ค, สถิติ, รายงาน, ราคา, ยางสังเคราะห์, ยางพารา, ยางธรรมชาติ, ยาง, ข้อมูล, ข่าว

เว็บไซต์รวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับยาง ข้อมูลยางธรรมชาติ หรือยางพารา และยางสังเคราะห์ ข้อมูลมาจากทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ข่าวยาง ราคายาง รายงาน สถิติ ข่อมูลจากตลาดยางโลก ข้อมูลทางเศรษฐศาสตร์ ข้อมูลรายเดือน รายปี รายไตรมาส ข้อมูลเครื่องจักรในอุตสาหกรรมผลิตยาง ข้อมูลระบบเตือนภัยอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง

ไปที่เว็บไซต์  http://rubber.oie.go.th
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
สถาบันพลาสติก

ส.สมาน เทรดดิ้ง

]]>
ความแตกต่างระหว่าง ยางซิลิโคน กับยางธรรมชาติ https://www.smarntrading.com/difference-silicone-natural-rubber/ Fri, 06 Mar 2020 01:05:44 +0000 https://www.smarntrading.com/?p=8236 ส.สมาน เทรดดิ้ง - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด - ความแตกต่างระหว่าง ยางซิลิโคน กับยางธรรมชาติ

ยางซิลิโคน กับยางธรรมชาติ แตกต่างกันอย่างไร? ซิลิโคน เป

ส.สมาน เทรดดิ้ง

]]>
ส.สมาน เทรดดิ้ง - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด - ความแตกต่างระหว่าง ยางซิลิโคน กับยางธรรมชาติ

ความแตกต่างระหว่าง ยางธรรมชาติ ยางซิลิโคน การเลือกใช้งาน 1 - ความแตกต่างระหว่าง ยางซิลิโคน กับยางธรรมชาติ - เหมาะสม, เสียดสี, อุณหภูมิ, สึกหรอ, สารเคมี, สภาพอากาศ, ยางธรรมชาติ, ยางซิลิโคน, ยาง, ผลิต, น้ำมัน, ซิลิโคน, การใช้งาน, silicone rubber, natural rubber

ยางซิลิโคน กับยางธรรมชาติ แตกต่างกันอย่างไร?

ซิลิโคน เป็นโพลิเมอร์ชนิดหนึ่งที่รู้จักกันในชื่อ“ อีลาสโตเมอร์” โพลีเมอร์เหล่านี้ มีความยืดหยุ่น อีลาสโตเมอร์ที่รู้จักกันดีที่สุดคือยางธรรมชาติ ในบทความนี้จะไปดูคุณสมบัติของซิลิโคน และยางธรรมชาติ หากเมื่อถึงเวลา คุณอาจต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง คุณจะสามารถเลือกได้เหมาะสมที่สุด หลังจากอ่านเนื้อหาจากบทความนี้

  ยางธรรมชาติ ยางซิลิโคน
อุณหภูมิใช้งาน -50 ° C ถึง 80 ° c -50 ° C ถึง 230 ° c
วัสดุ การบีบอัดที่ยอดเยี่ยม การบีบอัดที่ยอดเยี่ยม
สภาพแวดล้อม ทนต่อสภาพอากาศไม่ดี ทนต่อสภาพอากาศที่ดีเยี่ยม
ความเหนียววัสดุ ประมาณ ความต้านทานแรงดึง 25 MPa ประมาณ แรงดึง 5 MPa
การเสียดสี ความต้านทานการสึกหรอที่ดีเยี่ยม ต้านทานไม่ดี
ข้อเสีย เข้ากันไม่ได้กับ: โอโซน, กรดแก่, ไขมัน, น้ำมัน, จาระบี, ไฮโดรคาร์บอน เข้ากันไม่ได้กับ: เชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน, อัลคาลิและกรด, ไอน้ำมากกว่า 121 ° C, ไตรคลอโรเอธิลีน, ไฮโดรคาร์บอนอะโรมาติก
ข้อดี เข้ากันได้กับ: น้ำร้อนและน้ำเย็น, กรดอ่อน, แอลกอฮอล์, คีโตน, อัลดีไฮด์ เข้ากันได้กับ: โอโซน, น้ำมัน, น้ำมันเบรก, น้ำร้อนและน้ำเย็น, น้ำเกลือ, ไฮโดรคาร์บอนคลอรีนน้ำหนักโมเลกุลสูง, น้ำมันไฮดรอลิกทนไฟ

ยางธรรมชาติ และซิลิโคน สามารถทำงานได้ดี ที่อุณหภูมิต่ำถึง -50 ° C ยางซิลิโคนนั้นสามารถทำงานในอุณหภูมิสูงได้ดีกว่ายางธรรมชาติมาก ยางธรรมชาติจะเริ่มเสื่อมสภาพที่อุณหภูมิ 80 ° C และละลายที่ 120 ° C ยางซิลิโคนนั้นสามารถกำหนด หรือปรับแต่งสูตรยางในกระบวนการผลิต ให้ใช้งานได้ถึง 250 ° C ยางซิลิโคนยังมีความต้านทานเปลวไฟได้ดีกว่ายางธรรมชาติมาก สำหรับการใช้งานที่อุณหภูมิสูง ซิลิโคนเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างแน่นอน

ยางซิลิโคน และยางธรรมชาตินั้น ไม่สามารถทนต่อ น้ำมันเชื้อเพลิง และ สารหล่อลื่น อย่างไรก็ตามซิลิโคนมีความต้านทานต่อสารเคมีที่หลากหลายกว่ายางธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการใช้ในงานปิดผนึกฝาบรรจุภัณฑ์ทางเคมี การตรวจสอบก่อนนำไปใช้กับสารเคมี จะต้องทดสอบกับสารเคมีชนิดเดียวกัน นำยางซิลิโคนกับสารเคมีมาทำการแช่ เพื่อดูปฏิกริยาที่เกิดขึ้นจึงค่อยตัดสินใจนำไปใช้

ยางธรรมชาติมีความต้านทานแรงดึง ต้านทานการฉีกขาด และการเสียดสีสูงกว่ายางซิลิโคน มักถูกใช้ในงานที่ต้องทนการสึกหรอสูง เช่น ดอกยาง และสายพานลำเลียง ซิลิโคนมีความต้านทานต่อการเสียดสีค่อนข้างต่ำ การนำไปใช้งานจะทำให้ยางซิลิโคนสึกกร่อนอย่างไปอย่างรวดเร็ว การใช้งานที่ต้องการทนต่อการสึกหรอนั้น ยางธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ซิลิโคนมีความทนทานต่อสภาพอากาศ และ UV ได้อย่างดีเยี่ยม มักพบได้ในงานกลางแจ้ง งานภายนอกอาคาร เช่น ซีลขอบประตู และ ซีลขอบหน้าต่าง ในทางตรงกันข้าม สภาพอากาศนั้นเป็นตัวเร่งให้ยางธรรมชาตินั้นเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ไม่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง ยางซิลิโคนจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

การใช้งานยางซิลิโคนดูเหมือนจะมีความหลากหลาย ดูมีประสิทธิภาพมากกว่ายางธรรมชาติ แต่ในบางกรณียางธรรมชาติอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ทางเลือกที่เหมาะสมระหว่างวัสดุทั้งสองนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมที่จะใช้งาน เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถใช้งานยางธรรมชาติ และยางซิลิโคน ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด.

Post: https://www.smarntrading.com/difference-silicone-natural-rubber
Writen by: S.Smarn Trading

 

ความแตกต่างระหว่างยางสังเคราะห์ กับยางธรรมชาติ

ลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่น ของยางซิลิโคน

ส.สมาน เทรดดิ้ง

]]>
ยาง คืออะไร? ความหมายของยาง https://www.smarntrading.com/%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3-%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87/ Thu, 09 Jan 2020 14:22:41 +0000 https://www.smarntrading.com/?p=5643 ส.สมาน เทรดดิ้ง - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด - ยาง คืออะไร? ความหมายของยาง

ยาง คืออะไร ยาง คือวัสดุพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจนแ

ส.สมาน เทรดดิ้ง

]]>
ส.สมาน เทรดดิ้ง - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด - ยาง คืออะไร? ความหมายของยาง

ยาง คืออะไร

ยาง คือวัสดุพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจนและคาร์บอน ยางเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง ยางที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติจะมาจากของเหลวของพืชบางชนิด ซึ่งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาว คล้ายน้ำนม มีสมบัติเป็นคอลลอยด์ อนุภาคเล็ก มีตัวกลางเป็นน้ำ ยางในสภาพของเหลวเรียกว่าน้ำยาง ยางที่เกิดจากพืชนี้เรียกว่ายางธรรมชาติ ในขณะเดียวกันมนุษย์สามารถสร้างยางสังเคราะห์ได้จากปิโตรเลียม

การผลิตยางธรรมชาติ

แหล่งผลิตยางธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คิดเป็นร้อยละ 90 ของแหล่งผลิตทั้งหมด ส่วนที่เหลือมาจากแอฟริกากลาง ซึ่งพันธุ์ยางที่ผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ ฮีเวีย บราซิลเลียนซิส (Hevea brasiliensis) น้ำยางที่ได้จากต้นยางมีลักษณะเป็นเม็ดยางเล็ก ๆ กระจายอยู่ในน้ำ (emulsion) มีปริมาณของแข็งประมาณร้อยละ 30-40 การใส่กรดฟอร์มิกเจือจางลงในน้ำยาง ทำให้น้ำยางจับตัวเป็นก้อน เกิดการแยกชั้นระหว่างเนื้อยางและน้ำ ส่วนน้ำที่ปนอยู่ในยางจะถูกกำจัดออกไปโดยการรีดด้วยลูกกลิ้ง 2 ลูกกลิ้ง วิธีการหลัก ๆ ที่จะทำให้ยางแห้งสนิทมี 2 วิธีคือ การรมควันยาง และการทำยางเครพ แต่เนื่องจากยางผลิตได้มาจากเกษตรกรจากแหล่งที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องมีการแบ่งชั้นของยางตามความบริสุทธิ์ของยางนั้น ๆ

รูปแบบของยางธรรมชาติ

ยางธรรมชาติสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะรูปแบบของยางดิบ ได้แก่

น้ำยาง
น้ำยางสด
น้ำยางข้น
ยางแผ่นผึ่งแห้ง : ยางที่ได้จากการนำน้ำยางมาจับตัวเป็นแผ่นโดยสารเคมีที่ใช้จะต้องตามเกณฑ์ที่กำหนด ส่วนการทำให้แห้งอาจใช้วิธีการผึ่งลมในที่ร่ม หรือ อบในโรงอบก็ได้แต่ต้องปราศจากควัน
ยางแผ่นรมควัน
ยางเครพ

ยางแท่ง : ก่อนปี 2508 ยางธรรมชาติที่ผลิตขึ้นมา ส่วนใหญ่จะผลิตในรูปของยางแผ่นรมควัน ยางเครพ หรือน้ำยางข้น ซึ่งยางธรรมชาติเหล่านี้จะไม่มีการระบุมาตรฐานการจัดชั้นยางที่ชัดเจน ตามปกติจะใช้สายตาในการพิจารณาตัดสินชั้นยาง ต่อมาในปี 2508 สถาบันวิจัยยางมาเลเซีย (Rubber Research Institute of Malaysia) ได้มีการผลิตยางแท่งขึ้นเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของยางธรรมชาติให้ได้มาตรฐาน เหมาะสมกับการใช้งาน จนทำให้ยางแท่งเป็นยางธรรมชาติชนิดแรกที่ผลิตมาโดยมีการควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐาน ตลอดจนมีการระบุคุณภาพของยางดิบที่ผลิตได้แน่นอน

ยางแท่งความหนืดคงที่ : เป็นยางที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมทำผลิตภัณฑ์ที่ต้องการควบคุมความหนืดของยางที่ใช้ในการแปรรูป เช่น อุตสาหกรรมยางท่อ, อุตสาหกรรมทำกาว

ยางสกิม : ยางสกิมเป็นยางธรรมชาติที่ได้จากการจับตัวน้ำยางสกิม (skim latex) ด้วยกรดแล้วนำยางที่ได้ไปทำการรีดแผ่นและทำให้แห้ง โดยน้ำยางสกิมเป็นน้ำส่วนที่เหลือจากการทำน้ำยางข้นด้วยการนำน้ำยางสดมาทำการเซนตริฟิวส์ แยกอนุภาคเม็ดยางออกจากน้ำ ซึ่งอนุภาคเม็ดยางเบากว่าน้ำ ส่วนใหญ่จึงแยกตัวออกไปเป็นน้ำยางข้น น้ำยางข้นที่ได้มีปริมาณเนื้อยางอยู่ร้อยละ 60-63 ซึ่งน้ำยางสกิมคือส่วนที่เหลือจากการเซนตริฟิวส์แยกเนื้อยางส่วนใหญ่ออกไปแล้ว ก็ยังมีส่วนของเนื้อยางออกมาด้วย ซึ่งเป็นเนื้อยางที่มีขนาดอนุภาคเล็ก ๆ มีปริมาณเนื้อยางอยู่ร้อยละ 3-6
โครงสร้างหลักที่มีผลกระทบต่อสมบัติของยางธรรมชาติ

ยางธรรมชาติมีชื่อทางเคมี คือ ซิส-1,4-พอลิไอโซพรีน (cis-1,4-polyisoprene) เป็นโมเลกุลที่ประกอบด้วยคาร์บอนและไฮโดรเจนล้วน ทำให้มีสมบัติไม่ทนต่อน้ำมัน แต่เป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดี ใน 1 โมเลกุลจะประกอบด้วยหน่วยของไอโซพรีน (C5H8) มาต่อกันเป็นสายโซ่ยาวแบบเส้นตรงใน 1 หน่วยไอโซพรีนจะมีพันธะคู่และหมู่อัลฟาเมทธิลีนที่ว่องไวต่อการเกิดปฏิกิริยา ทำให้สามารถวัลคาไนซ์ได้ด้วยกำมะถัน และทำให้ยางทำปฏิกิริยาได้ง่ายด้วยออกซิเจนและโอโซน ทำให้ยางเกิดการเสื่อมสภาพได้ง่ายเช่นเดียวกัน ดังนั้นการออกสูตรยางจำเป็นจะต้องมีแอนตี้ออกซิแดนท์และแอนตี้โอโซแนนท์ร่วมด้วย[3] ยางธรรมชาติมีสายโซ่ที่เคลื่อนไหวหักงอไปมาได้ง่าย ทำให้ยางธรรมชาติคงสภาพยืดหยุ่นได้ดี มีอุณหภูมิของการเปลี่ยนสถานะคล้ายแก้ว ประมาณ -72 °C สามารถใช้งานได้ที่อุณหภูมิต่ำมาก สำหรับความสม่ำเสมอในโครงสร้างโมเลกุล ทำให้ยางธรรมชาติสามารถตกผลึกได้เมื่อยืด การเกิดผลึกเนื่องจากการยืดตัวยังทำให้ยางคงรูปมีสมบัติเชิงกลดีขึ้น นั่นคือ ยางจะมีความทนทานต่อแรงดึง ความทนทานต่อการฉีกขาด และความต้านทานต่อการขัดถูสูงขึ้น ยางธรรมชาติมีน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ยสูง อยู่ในช่วง 200,000 ถึง 400,000 และมีการกระจายตัวของน้ำหนักโมเลกุลกว้างมาก ทำให้ยางแข็งเกินไปที่จะนำไปแปรรูปโดยตรง จะต้องมีการบดยาง ก่อนที่จะนำไปใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการบดยางโดยทั่วไปจะใช้เครื่องบดยางสองลูกกลิ้ง

ยางธรรมชาติประเภทอื่น ๆ (ปรับสภาพโครงสร้าง)

ยางฮีเวียพลัส เอ็มจี (Heveaplus MG) : ยางธรรมชาติที่มีการปรับสภาพโครงสร้างให้มีโครงสร้างโมเลกุลของเทอร์โมพลาสติกโดยโครงสร้างของยางเป็นสายโซ่หลัก (Backbone chain) และโครงสร้างของพอลิเมทธิลเมทาไครเลท (Polymethyl methacrylate) เป็นสายโซ่ที่มาต่อกับยางธรรมชาติ (Graft chain) เรียกว่า กราฟโคพอลิเมอร์

ยางธรรมชาติอิพอกไซด์ (ENR) : ยางธรรมชาติอิพอกไซด์ เป็นยางที่นำยางธรรมชาติมาปรับโครงสร้างโดยใช้สารเคมีจำพวกกรดเพอร์ออกซี่ (peroxy acid) ซึ่งยางจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้มกว่ายางธรรมชาติปกติ ซึ่งสามารถเตรียมได้ทั้งชนิดน้ำยางและยางแห้ง โดยมีการผลิตขึ้นเพื่อปรับปรุงสมบัติบางประการของยางธรรมชาติให้ดีขึ้น เช่น ทำให้ยางมีความเป็นขั้วมากขึ้น สามารถทนต่อน้ำมันและตัวทำละลายที่ไม่มีขั้วได้ดีขึ้น สามารถทนต่อโอโซน และการซึมผ่านของอากาศได้ดี เพราะพันธะคู่ในโครงสร้างยางธรรมชาติมีปริมาณน้อยลง อย่างไรก็ตามก็จะมีสมบัติบางประการที่ด้อยกว่ายางธรรมชาติ เช่น มีความยืดหยุ่นต่ำลง และหากนำไปวัลคาไนซ์ด้วยกำมะถันยางจะไม่ทนต่อความร้อน ยาง ENR มักใช้ในอุตสาหกรรมกาว หรือสารยึดติด รองเท้า สี และยางรถยนต์ เป็นต้น

ยางผง (Powder Rubber) : ยางผง เป็นยางที่ผลิตออกมาในลักษณะที่เป็นเม็ด เพื่อให้สะดวกในการใช้งานกล่าวคือสามารถใช้งานในลักษณะการผลิตแบบต่อเนื่องได้และสามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านการบดหรือตัดยาง

ยางธรรมชาติสกัดโปรตีน (DPNR) : ยางธรรมชาติสกัดโปรตีนเป็นยางที่มีการดัดแปลงสภาพของยาง เพื่อให้มีปริมาณโปรตีนในยางต่ำซึ่งจะเป็นการลดปริมาณไนโตรเจนและปริมาณเถ้าในยาง เนื่องจากการที่ยางมีโปรตีนในยาง (ร้อยละ 1) ทำให้ยางเกิดการวัลคาไนซ์เร็ว สมบัติบางประการของผลิตภัณฑ์ไม่ดี ไม่สามารถนำมาใช้งานในด้านวิศวกรรมได้ เนื่องจากสมบัติความทนทานต่อแรงกดหรือแรงกระแทกต่ำ และอาจมีการเกิดอาการแพ้โปรตีนในผลิตภัณฑ์ที่มีการสัมผัสโดยตรง เช่น ถุงมือ ทำให้มีความจำเป็นต้องลดปริมาณโปรตีนโดยการเตรียมน้ำยางที่มีโปรตีนต่ำก่อนนำไปทำผลิตภัณฑ์ หรือ ล้างน้ำหลาย ๆ ครั้ง สำหรับผลิตภัณฑ์ที่แยกโปรตีนด้วยการละลายน้ำได้

ยางไซไคลซ์ (Cyclised Rubber) : ยางที่ปรับสภาพโครงสร้างโมเลกุลของยาง โดยให้โมเลกุลของยางเกิดการเชื่อมโยงกันเองจนเป็นวง ทำให้มีสัดส่วนของพันธะที่ไม่อิ่มตัวลดลง ทำให้สมบัติยางเปลี่ยนไปและมีความแข็งแรงขึ้น

ยางเอสพี (SP Rubber) : ยางเอสพีหมายถึงยางที่มีส่วนผสมของยางวัลคาไนซ์ เช่น ยางเอสพี 20 คือ ยางที่มีส่วนผสมของยางที่วัลคาไนซ์อยู่ 20 ส่วนในยาง 100 ส่วน เป็นต้น

การผสมยางธรรมชาติกับพอลิเมอร์ชนิดอื่น

ยางธรรมชาติเป็นยางที่มีสมบัติเด่นด้านควาเหนียวติดกันที่ดี, สมบัติด้านการขึ้นรูปที่ดี, ความร้อนสะสมในขณะการใช้งานต่ำ เป็นต้น แต่ก็มีสมบัติบางประการที่เป็นข้อด้อย

ดังนั้นในการแก้ไขข้อด้อยนั้น สามารถทำได้โดยการเลือกเอาสมบัติที่ดีจากยางสังเคราะห์ชนิดอื่นมาทดแทน เช่น สมบัติด้านความทนทานต่อการขัดถูของยางบิวตาไดอีน (BR), สมบัติความทนทานต่อน้ำมันของยางไนไตรล์ (NBR), สมบัติความทนทานต่อความร้อนและโอโซนของยาง EPDM เป็นต้น โดยการผสมยางธรรมชาติกับยางสังเคราะห์เหล่านี้เข้าด้วยกัน แต่การที่จะผสมให้เข้ากันได้นั้นยางสังเคราะห์ชนิดนั้น ๆ ต้องไม่มีความเป็นขั้วเหมือนกับยางธรรมชาติ จึงจะทำให้ยางผสมรวมเข้ากันเป็นเฟสเดียวกันได้ดีขึ้น เช่น ยาง BR, SBR, EPDM และ NBR (เกรดที่มีอะคริโลไนไตรล์ต่ำ ๆ) ซึ่งปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อสมบัติของยางผสมที่ได้นั้น มีดังนี้

ความหนืดของยาง ยางธรรมชาติก่อนที่จะทำการผสมต้องทำการบดเพื่อลดความหนืดในตอนเริ่มต้นการผสมให้เท่ากับยางสังเคราะห์หรือใกล้เคียงซึ่งจะทำให้ยางทั้งสองผสมเข้ากันได้ดีขึ้น

ระบบการวัลคาไนซ์ของยาง ระบบที่ใช้ในการวัลคาไนซ์ต้องมีความเหมือนหรือแตกต่างกันไม่มากนัก เพื่อป้องกันการแยกเฟสของยางผสมขณะที่ทำการผสมยาง

ความเป็นขั้วของยาง ในกรณีที่ทำการผสมยางที่มีความเป็นขั้วแตกต่างกันมาก ควรพิจารณาถึงความสามารถในการกระจายตัวของสารเคมีในยางแต่ละชนิด โดยเฉพาะสารตัวเร่งและสารตัวเติม เพราะสารเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะกระจายตัวได้ดีในยางที่มีความเป็นขั้ว ซึ่งอาจส่งผลให้ยางผสมมีสมบัติต่ำลงจากที่ควรจะเป็น หากการกระจายตัวของสารเคมีไม่ดีเท่าที่ควร

ส.สมาน เทรดดิ้ง

]]>
ความแตกต่างระหว่าง ยางสังเคราะห์ กับ ยางธรรมชาติ https://www.smarntrading.com/sr-nr-rubber-different/ Sat, 26 Oct 2019 07:52:11 +0000 https://www.smarntrading.com/?p=2715 ส.สมาน เทรดดิ้ง - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด - ความแตกต่างระหว่าง ยางสังเคราะห์ กับ ยางธรรมชาติ

ยางธรรมชาติ และ ยางสังเคราะห์ แตกต่างกันอย่างไร? ยางสัง

ส.สมาน เทรดดิ้ง

]]>
ส.สมาน เทรดดิ้ง - ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางสั่งทำ รับขึ้นรูปยางซิลิโคน และอะไหล่ยางทุกชนิด - ความแตกต่างระหว่าง ยางสังเคราะห์ กับ ยางธรรมชาติ

bigstock Tapping Latex 63649480 1 - ความแตกต่างระหว่าง ยางสังเคราะห์ กับ ยางธรรมชาติ - ไวตัน, แตกต่าง, อุตสาหกรรม, ยางสังเคราะห์, ยางพารา, ยางธรรมชาติ, ยางซิลิโคน, ยาง ธรรมชาติ และ ยาง สังเคราะห์ แตก ต่าง กัน อย่างไร, ยาง, ผลิต, ต้นยาง, viton, sbr, rubber, nbr, natural rubber

ยางธรรมชาติ และ ยางสังเคราะห์ แตกต่างกันอย่างไร?

ยางสังเคราะห์ (Synthetic rubber) เป็นผลิตภัณฑ์ที่สังเคราะห์ขึ้นเพื่อเลียนแบบยางธรรมชาติ ซึ่งจัดว่าเป็นอิลาสโทเมอร์ หรือวัสดุยืดหยุ่นสังเคราะห์ (artificial elastomer) ชนิดหนึ่งที่มีสมบัติพิเศษคือ สามารถเปลี่ยนรูปภายใต้ความเค้นได้มากกว่าวัสดุชนิดอื่นและสามารถกลับคืนรูปได้เหมือนเดิมโดยไม่เกิดการเสียรูปอย่างถาวร

ยางสังเคราะห์สามารถสังเคราะห์ได้จากปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชั่น (polymerization) ของสารตั้งต้นที่เป็นผลผลิตพลอยได้จากกระบวนการกลั่นปิโตรเลียมซึ่งเรียกว่า ‘มอนอเมอร์ (monomer)’ ยางสังเคราะห์แต่ละชนิดจะมีการผสมมอนอเมอร์ชนิดเดียวหรือหลายชนิดในสัดส่วนที่ต่างกัน เพื่อพัฒนาให้ได้ยางสังเคราะห์ที่มีสมบัติทางกายภาพ ทางกล และทางเคมีที่แตกต่างกันตามต้องการ

ยกตัวอย่าง เช่น ยางพอลิไซพรีนชนิดสังเคราะห์ (IR) เป็นยางที่สังเคราะห์ได้จากมอนอเมอร์ชนิดเดียว คือไอโซพรีน (isoprene : 2-methyl-1,3-butadiene) ส่วนยางสไตรีนบิวทาไดอีนและยางบิวทิล เป็นยางที่สังเคราะห์ได้จากมอนอเมอร์สองชนิด คือสไตรีน (styrene) และบิวทาไดอีน (butadiene :1,3-butadiene) กับ ไอโซบิวทิลิน (isobutylene : 2-methylpropene) และไอโซพรีน ตามลำดับ เป็นต้น

แต่สำหรับ ยางธรรมชาติ (Natural Rubber : NR) นั้นเป็นผลิตผลที่ได้จากต้นยางพารา (Hevea brasilensis) โดยการกรีดลำต้นและนำเอาของเหลวสีขาวคล้ายน้ำนม เรียกว่า น้ำยางสดหรือน้ำยางดิบ (latex)

น้ำยางสดหรือน้ำยางดิบ ประกอบไปด้วยพอลิเมอร์ของสารไอโซพรีนมาผ่านกระบวนการผลิตเพื่อให้เก็บไว้ได้นานและได้น้ำยางสดเข้มข้น

น้ำยางสดที่ได้จะถูกนำมาแปรสภาพเป็น 2 ลักษณะ คือ ในรูปของน้ำยางข้น ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ยางต่างๆ เช่น ถุงมือยาง อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และลูกโป่ง เป็นต้น และในอีกลักษณะหนึ่ง คือ ในรูปของยางแห้ง ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแผ่นผึ่งแห้ง ยางแท่ง และยางเครพ เป็นต้น

แม้ว่ายางธรรมชาติจะมีสมบัติที่ดีหลายประการ อาทิเช่น มีความต้านทานแรงดึง (tensile strength) สูง ทนต่อการเสื่อมสภาพเมื่อได้รับความร้อน แสง และโอโซนในอากาศได้ในระดับปานกลาง รวมถึงทนต่อการล้าได้ดีก็ตาม

แต่หากเปรียบเทียบกับยางสังเคราะห์แล้วพบว่า ยางธรรมชาติยังมีสมบัติโดยรวมที่ด้อยกว่า เนื่องจากยางสังเคราะห์มีความทนทานต่อการขัดถูและการสึกกร่อน (abrasion resistance) ที่ดีกว่า มีความเสถียรทางความร้อน (thermal stability) ที่สูงกว่าทำให้ยางสังเคราะห์เสื่อมสภาพได้ช้ากว่ายางธรรมชาติ ทั้งยังมียางสังเคราะห์อีกหลายชนิดที่สามารถคงความยืดหยุ่นได้แม้อยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำ สามารถทนต่อน้ำมันและจาระบี รวมทั้งยังทนเปลวไฟได้ดีซึ่งเหมาะกับการนำไปใช้ทำเป็นฉนวนในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย

นอกจากนี้แล้ว ยางธรรมชาติยังเป็นยางที่ได้จากต้นยางพารา ซึ่งเป็นพืชเขตร้อนที่มีข้อจำกัดในการปลูก ปริมาณของยางที่ได้จึงมักไม่เพียงพอต่อความต้องการในอุตสาหกรรม

ดังนั้น ในปัจจุบันยางสังเคราะห์จึงได้รับความนิยมมากกว่า ทั้งยังมีหลายชนิดให้เลือกเหมาะกับการใช้งานหลากหลายประเภท ตั้งแต่การนำมาใช้ในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ ใช้ผลิตเป็นเครื่องมือแพทย์ หรือใช้ทำชิ้นส่วนแม่พิมพ์ และสายพานในเครื่องจักร เป็นต้น


 

ข้อมูลจาก ศูนย์เทคโนโลยีโลหะ และวัสดุแห่งชาติ
อ่านเพิ่มเติมที่ www.mtec.or.th

ส.สมาน เทรดดิ้ง

]]>